ชาหมัก เพื่อสุขภาพเป็นเครื่องดื่มที่รู้จักกันมานานนับพันปี เชื่อกันว่าเครื่องดื่มนี้ดีต่อสุขภาพมากมาย เพราะนอกจากจะมีคุณสมบัติเหมือนชาแล้ว ยังมีโปรไบโอติกหรือจุลินทรีย์และยีสต์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำลายแบคทีเรียและเชื้อโรคที่เป็นอันตรายมากมาย ชาหมักคอมบูชา ทำโดยการหมักชา
อย่างเช่น ชาดำหรือชาเขียว น้ำตาล และยีสต์ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน จนได้เป็นเครื่องดื่มที่มีกรด ส่วนประกอบหลักคือกรดอะซิติกรวมทั้งวิตามินบีและสารอื่นๆ การดื่มชานี้มีความรู้สึกเป็นฟองและมีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย โดยชาหมักคอมบูชาบางชนิดมีประโยชน์ต่อสุขภาพ รักษาโรคได้ ทั้งนี้มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความสามารถต่างๆ ของชาหมักคอมบูชา
ดังนี้ กระบวนการหมักชาหมักคอมบูชาผลิตจุลินทรีย์และยีสต์คุณภาพสูงหรือโปรไบโอติก ซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหารของร่างกาย เพราะโพรไบโอติกส์จะไปทดแทนจุลินทรีย์สายพันธุ์ดีในระบบย่อยอาหารที่สูญเสียไปจากหลายสาเหตุ อย่างการกินอาหารไม่สะอาดหรือการใช้ยาบางชนิด อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่พบว่าโพรไบโอติกส์อาจช่วยรักษาและป้องกันโรคทางเดินอาหารบางชนิดได้ด้วย
ซึ่งรวมถึงอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ โรคลำไส้อักเสบ อาการลำไส้แปรปรวน และการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร และการติดเชื้อคลอสตริเดียม ดิฟิไซล์ โดยการหมักแบคทีเรีย คอมบูชา และยีสต์ในระหว่างการหมักจนเกิดฟิล์มคล้ายเห็ดบนพื้นผิวของของเหลว ดังนั้นบางคนจึงเรียกเครื่องดื่มนี้ว่าชาเห็ด
อีกทางหนึ่ง แบคทีเรียและยีสต์ที่มีชีวิตกลุ่มนี้เรียกว่า SCOBY สามารถใช้เป็นตัวเริ่มต้นได้ ดื่มชาหมักคอมบูชาครั้งต่อไป นอกจากนั้น โพรไบโอติกส์ยังช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เพราะการเสียสมดุลระหว่างจุลินทรีย์สายพันธุ์ดีและสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมามากมาย
จากงานวิจัยพบว่าโพรไบโอติกส์จะช่วยให้เด็กกับผู้ใหญ่ที่มีอาการหวัดสามารถหายได้เป็นปกติและรวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม โพรไบโอติกส์นั้นมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และปัจจัยทางร่างกายของแต่ละคน ดังนั้น จึงควรมีงานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของโพรไบโอติกส์ให้แน่ชัดยิ่งขึ้น
ซึ่งผู้บริโภคต้องหลีกเลี่ยงการทานหรือดื่มผลิตภัณฑ์ที่มีโพรไบโอติกส์ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย. ชาหมัก คอมบูชาที่อุดมด้วยสารอาหาร ชาเขียวหมักอุดมไปด้วยสารต่อต้านที่ช่วยป้องกันหรือยับยั้งการทำลายเซลล์ที่เกิด เช่น โพลีฟีนอล ชาหมักคอมบูชา ในการนี้หนูที่ได้รับสารละลายตะกั่วติดต่อกัน 50 วัน
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่กินชาหมักคอมบูชา การเพิ่มกลุ่มของชาคอมบูชาหมักที่สัมผัสกับสารตะกั่วและไม่ได้รับประทานอาหาร แสดงให้เห็นว่าจำนวนเซลล์ที่ได้รับความเสียหายจากสารตะกั่วลดลงในหนูกลุ่มแรก ดังนั้น เครื่องดื่มชนิดนี้จึงอาจช่วยลดความเป็นพิษของตับจากการได้รับสารเคมีที่เป็นพิษได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองในสัตว์เท่านั้น
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงอาจแตกต่างกับการทดลองในคน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดที่ศึกษาคุณสมบัติของ ชาหมักคอมบูชาในด้านการต้านอนุมูลอิสระกับคนโดยตรง จึงจำเป็นต้องรองานวิจัยสนับสนุนเพิ่มเติมที่ชัดเจนในอนาคตต่อไป กำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาหมักกรดอะซิติกหรือกรดเป็นส่วนประกอบหลัก ดังนั้น การศึกษาเพื่อศึกษาประสิทธิภาพ
จึงพบว่าชาคอมบูชาหมักมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียคอมบูชา ซึ่งหมักจากชาดำและชาเขียวอาจช่วยต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อรา Candida ซึ่งเป็นยีสต์ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ นอกจากนั้น จึงไม่ทำให้จำนวนโพรไบโอติกส์ลดน้อยลงไปด้วย งานวิจัยถึงประสิทธิภาพของชาหมักคอมบูชา ในการต้านเชื้อแบคทีเรียยังมีอยู่ไม่มากนัก
จึงจำเป็นต้องรองานวิจัยสนันสนุนเพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพในด้านนี้ให้แน่ชัด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด คอเลสเตอรอลในเลือดสูงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ โดยทั่วไปแล้ว คอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ คอเลสเตอรอลชนิดดีและไขมันชนิด HDL ที่มีไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง
ซึ่งทำหน้าที่กำจัดไขมันเลวในเลือด และยับยั้งการสร้างไขมันส่วนเกินและคอเลสเตอรอลบวก คอเลสเตอรอลชนิดลบ HDL LDL ซึ่งพอกพูนเกาะตามผนังหลอดเลือดหากมีไขมันเกิน ผลอาจนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด งานวิจัยชาหมักคอมบูฉะที่ลดระดับสาร โดยการให้หนูกินคอมบูชาที่มีสารสูงเป็นประจำเป็นเวลา 16 สัปดาห์
เปรียบเทียบ HDL และ LDL ก่อนและหลังการบริโภค และพบว่า LDL ต่ำกว่าและ HDL สูงกว่า ดังนั้น ชาหมักคอมบูชาจึงอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีได้ และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วย แต่งานวิจัยข้างต้นเป็นเพียงการทดลองกับสัตว์ จึงจำเป็นต้องรองานวิจัยสนับสนุนที่ทดลองกับคนในอนาคตต่อไป
ลดระดับน้ำตาลในตัว ด้วยประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัยชาหมักคอมบูชา สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในตัวได้ ด้วยการให้หนูที่มีน้ำตาลในเลือดสูงหมักคอมบูชาเป็นเวลา 30 วัน ร่างกายของหนูจะชะลอเวลาที่ร่างกายใช้ในการย่อยอาหารคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังทำให้ระดับน้ำตาลในตัวลดลง ดังนั้นการดื่มน้ำหมัก อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย
นี่คือภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกายสูงกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม การศึกษาข้างต้นดำเนินการในหนูเท่านั้น ผลลัพธ์จากสัตว์อาจแตกต่างจากผลลัพธ์ของมนุษย์ จึงยังต้องรอผลการวิจัยเพื่อรองรับการศึกษากับประชาชนในอนาคตต่อไป ประสิทธิภาพที่ได้รับการยืนยันของชาคอมบูชาหมักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในเรื่องนี้
นอกจากนี้ การใส่ชาหมักคอมบูชาให้หวานก่อนดื่มอาจลดประสิทธิภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากการเติมน้ำตาลลงในชาหมักหลังการหมักทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น มะเร็งจึงเกิดจากการกลายพันธุ์ในเซลล์ของมนุษย์ และเซลล์เหล่านั้นสามารถเพิ่มจำนวนได้โดยปราศจากการควบคุมของร่างกาย นี่เป็นโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
ในปัจจุบัน การวิจัยพบว่าสารต้านจำนวนมากที่มีอยู่ในชาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของชาหมักคอมบูชาอาจช่วยป้องกันเซลล์ได้ รวมทั้งยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตาม การศึกษาประสิทธิภาพเป็นเพียงการทดลองในห้องปฏิบัติการในการต้านมะเร็งเท่านั้น ดังนั้น ผลการวิจัยที่แน่ชัดในอนาคตเกี่ยวกับประชากรยากจนจึงยังรออยู่
บทความที่น่าสนใจ : แพ้ท้อง ศึกษาและอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุ อาการแพ้ หรือการเหม็นกลิ่นสามี